โครงการ Internverse ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ ไทยพาณิชย์ โพรเทค ในการวางรากฐาน "Talent Ecosystem" เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์เรียนรู้จากการทำงานจริงให้แก่นักศึกษา ผ่านการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากธุรกิจประกันภัย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานอย่างมืออาชีพในอุตสาหกรรมประกันภัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยนักศึกษาจะได้เข้าร่วมหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น Digital Face-to-Face และ Insure Up ปั้นนักการตลาดรุ่นใหม่ พร้อมการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาโครงการ ทั้งในด้านการขาย การนำเสนอ การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ และการใช้เครื่องมือดิจิทัลที่สอดคล้องกับโลกธุรกิจยุคใหม่ นอกจากนี้ นักศึกษายังได้รับการฝึกฝนในบทบาท Digital FPC (Digital Financial Protection Consultant) ผ่านการทำงานออนไลน์ โดยใช้เครื่องมือ Digital F2F, iRefer และช่องทางโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ พร้อมโอกาสได้รับการบรรจุเป็นพนักงานแบบมีเงินเดือน ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองทางการเงิน (Financial Protection Consultant) หรือเลือกเป็นนายหน้าแบบรับคอมมิชชัน ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองทางการเงิน (Financial Protection Consultant) ตามความถนัด และเมื่อเข้าร่วมโครงการจนครบหลักสูตร จะได้รับหนังสือรับรองการฝึกงานอย่างเป็นทางการ เพื่อปูทางสู่การต่อยอดอาชีพในธุรกิจประกันภัยยุคดิจิทัลอย่างมั่นคง
นางสาวปรมาศิริ กล่าวว่า "เราตั้งใจให้ Internverse เป็นมากกว่าการฝึกงานทั่วไป แต่คือพื้นที่แห่งการเรียนรู้และเติบโต ที่จะปลูกฝังแนวคิดด้านนวัตกรรมและเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญของธุรกิจประกันภัยในอนาคต เพราะเราเชื่อว่า 'ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาใดของชีวิต หรือมีไลฟ์สไตล์แบบใด การวางแผนความคุ้มครองก็สามารถเริ่มต้นได้' ดังนั้น เราจึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีปทุมเพื่อดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เข้าสู่การเรียนรู้อาชีพที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองทางการเงิน ซึ่งไม่เพียงช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคง แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในโลกยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง"
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.วิรัช ร่วมกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยศรีปทุมในการเสริมสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง (Experiential Learning) และการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมทั้งด้านทักษะและทัศนคติในการทำงานอย่างแท้จริง
ผู้เข้าร่วมงานยังได้เข้าเยี่ยมชม "SCB Academy และห้อง Tomorrow Land" พื้นที่ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI), ช่องทางบริการที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ (Omni-channel) และโซลูชันประกันภัยที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล ภายใต้แนวคิด "ความคุ้มครองที่ดี ควรเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์" ความร่วมมือในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการขับเคลื่อนกลยุทธ์การพัฒนาเยาวชนและบุคลากรในอนาคตร่วมกัน แต่ยังเป็นต้นแบบของการสร้าง "ระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้" ที่ยั่งยืนระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชน เพื่อปลดล็อกศักยภาพของเยาวชนไทย พร้อมผลักดันสังคมไทยสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต