สำหรับในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ เพื่อประเมินว่าต้นทุนภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ขณะที่ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 25bp ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายน หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมอ่อนแอเกินคาดและการทบทวนตัวเลขบ่งชี้ว่าการจ้างงานเดือนมิถุนายนหดตัว นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามประเด็นทางการเมืองในญี่ปุ่นและฝรั่งเศส รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)วันที่ 11 กันยายน ซึ่งมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 2.00% เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน แม้เราคาดว่าการสื่อสารของอีซีบีจะยังคงเปิดทางเลือกไว้สำหรับการลดดอกเบี้ยในระยะถัดไป แต่ภาวะที่การลดดอกเบี้ยนโยบายมาใกล้สุดทางแล้วเมื่อเทียบกับฝั่งสหรัฐฯจะเป็นประเด็นลบต่อค่าเงินดอลลาร์
สำหรับปัจจัยในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือนสิงหาคมของไทยลดลงเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน โดย CPI ลดลง 0.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลของราคาพลังงานและอาหารสดที่อ่อนตัวลง กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบ 0.66% ในไตรมาส 3/68 และติดลบ 0.24% ในไตรมาส 4/68 สำหรับดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสด เพิ่มขึ้น 0.81% ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ในช่วงเดือน 8 เดือนแรกของปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.08% และ 0.94% ตามลำดับ